ลบรอยสักสุดปัง ให้ผิวไม่พังได้อย่างไร

รอยสัก

การสักนับว่าเป็นกระแสฮิตติดเทรนมากๆในปัจจุบัน  ซึ่งทำมีการสักกันอย่างแพร่หลายไม่ว่าจะเป็น  เน็ตไอดอล  ศิลปิน  ดารา  รวมถึงวัยรุ่นหญิงชาย   เพราะการสัก ไม่ได้จำกัดเพศแล้วโดยนิยมสักเป็นรูปภาพ  เช่น  พ่อ แม่   หรือรูปกราฟฟิก  ชื่อแฟน  บางท่านก็สักเป็นอักขระ เพื่อพุทธคุณทางไสยเวทย์ ให้รักให้หลง  คุ้มครองป้องกันอันตราย เรียกทรัพย์  แต่เมื่อวันเวลผ่านไป  เบื่อรอยสัก ไม่ว่าจะด้วยเรื่อง อยากเปลี่ยนลายสักใหม่  เปลี่ยนหน้าที่การงาน ความรักจบลง จึงไม่อยากทิ้งรอยสักไว้กวนใจไม่ว่าคุณจะลบรอยสักด้วยเหตุผลใดก็ตาม  การลบรอยสักคุณต้องรู้ไว้ก่อนเลยว่า  จะไม่ง่ายเหมือนตอนที่คุณจะถูกฝังลวดลายและรอยสีแห่งความภูมิใจลงไปบนเรือนร่าง เพราะน้ำหมึกที่ฝังลงไปในชั้นผิวนั้น เป็นระดับที่ลึกพอสมควร

ดังนั้นการลบรอยสักในหลากหลายวิธีจึงล้วนแล้วแต่เป็นการทำลายผิวของคุณเองทั้งสิ้น ซึ่งต้องแลกมากับความเจ็บปวด  อดทน ต่อรอยแผลเป็น ผิวถลอก  ผิวเสียจากการลบที่ผิดวิธี  และเสี่ยงต่อการติดเชื้อที่ผิวหนัง และยิ่งถ้าเป็นหนักจะบานปลายกลายเป็นมะเร็งตามมาเป็นต้น

วิธีที่ได้รับความนิยม ในการลบรอยสัก

  • ลบรอยสักด้วยน้ำยา ซึ่งวิธีนี้เป็นวิธีที่ในอดีตได้รับความนิยมมาก  ปัจจุบันก็ยังมีหลายๆคนที่ยังใช้วิธีนี้อยู่  ก่อนอื่นต้องขอบอกก่อนว่าเป็นวิธีที่มีความเสี่ยงสูงมาก  เพราะส่วนใหญ่จะนิยมหาข้อมูลทางอินเตอร์เน็ต แล้วมีการสอบถามทางอินบ็อกไป แล้วมีการตอบด้วยข้อความที่กระตุ้นใจ หรือมีคลิปอธิบายการใช้น้ำยาลบรอยสัก ได้ด้วยตนเอง ง่าย รวดเร็ว เห็นผลจริง และยิ่งมีทั้งคนไลน์และแชร์ จนทำให้เกิดความเชื่อใจ  มั่นใจกับผู้ที่ดู  ซึ่งน้ำยาลบรอยสักนี้ จะมีสารประกอบกลากหลายตัว และบาวตัวก็มีคุณสมบัติที่กัดผิวหนังอย่างรุนแรง

แต่ใช้เวลาไม่มากค่าใช้จ่ายน้อยกว่าวิธีอื่น  อย่างไรก็ตาม วิธีการลบรอยสักด้วยน้ำยา  มาจะฝากความทรงจำร้ายๆให้กับหลายคน  ที่ต้องทนความเจ็บปวด  พร้อมยอมรับความเสี่ยงสูงที่จะเกิดขึ้นต่อไป เพราะด้วยสารประกอบต่างๆในน้ำยา สามารถกัดและทำลายเซลล์ผิวหนังเพื่อทำให้หมึกที่ฝังภายใต้ผิวเหล่านั้นให้หลุดออกไป  ถึงแม้จะเป็นสารตั้งต้นจากกรดผลไม้ที่คุณคิดว่าปลอดภัยแล้วก็ตามน้ำยาตัวนี้สามารถทำให้ผิวหนังของคุณไหมก็ได้  บางท่านก็ใช้น้ำยาที่มีความเข้มข้นสูง  จนเกิดเป็นแผลเป็น ทำให้หลายๆเคสต้องตัดสินใจเข้ามาขอ คำปรึกษาจากแพทย์ผู้ชำนาญ  ที่คลินิกหรือโรงพยาบาล  บางท่านก็ลามจนเป็นเคสแผลติดเชื้อ  กลายเป็นความทรงจำที่ไม่มีวันลืมถึงแม้ว่าบางท่านจะใช้น้ำยาลบรอยสักได้สำเร็จและทนต่อความเจ็บปวดที่มีมากมายกว่าตอนที่ไปสักมาก็ตาม แต่ก็ทำได้เพียงแค่ทำให้รอยหมึกที่สักมา จางลงในระดับหนึ่งเท่านั้น บางเคสเหลือร่องรอยที่ดูแย่กว่าเดิมด้วยซ้ำ  อีกทั้งผลลัพธ์ในแต่ละคนก็ไม่เหมือนกันอีกด้วย

  • ลบรอยสักด้วยศัลยกรรมผ่าตัด วิธีนี้เหมาะกับเคสที่มีรอยสักเป็นพื้นที่้เล็กๆ ลบรอยสักด้วยวิธีนี้จะได้ผลดีเพราะบริเวณที่มีรอยสัก จะถูกผ่าตัดออก และเย็บเข้ามาให้ติดกัน เป็นวิธีที่ปลอดภัยเพราะมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเป็นผู้ดูแล   แต่จะทิ้งรอยแผลเป็นเอาไว้  และมีข้อจำกัดสำหรับผู้ที่มีรอยสักเล็กๆเท่านั้น
  • ลบรอยสักด้วยศัลยกรรมขัดผิว วิธีนี้เป็นการขัดผิวหรือกรอผิวด้วยเครื่องมือแพทย์เป็นอีก1ทางที่เจ็บไม่มากแต่สามารถทำให้จางลง  หลังจากที่ลบรอยสักด้วยวิธีขัดผิวแล้ว  จะมีอาการเจ็บและแสบบริเวณที่ทำไป ประมาณ 1-2 สัปดาห์  โดยวิธีนี้จะมีแพทย์ดูแลและคอยให้คำแนะนำ อย่างไรก็ตามเนื่องผลลัพธ์ที่ไม่ค่อยมีความแน่นอน และได้ผลน้อยกว่าวิธีอื่น ดังนั้นวิธีนี้จึงได้รับความนิยมน้อย หลายท่านจึงหันไปเลือกทางอื่นแทน

เลเซอร์ลบลอยสัก

  • ลบรอยสักด้วยเลเซอร์  เป็นวิธีลบรอยสักที่ง่าย  ได้รับความนิยมมากที่สุด และมีประสิธิภาพ โดยใช้พลังงานจากแสงเลเซอร์ เข้าไปทำให้เม็ดสีของหมึกที่สักลงไป ซึ่งมีโมเลกุลขนาดใหญ่แตกแตกตัวลง  กลายเป็นโมเลกุลที่มีขนาดเล็กลง  จนร่างกายคนเรานั้นสามารถกำจัดออกไปได้เองจึงทำให้ลองสักนั้นจางลง ปริมาณในการทำจะอยู่ที่ 6-10 ครั้ง ขึ้นอยู่กับความเข้มและลึกของหมึกที่สักและชนิดของสีด้วย  สีที่ลบง่ายคือสีที่ออกไปในทางโทนเข้ม โดยเฉพาะสีดำ เพราะสามารถดูดซับพลังงานแสงเลเซอร์ได้มากกว่า  สีที่ค่อนข้างลบยากคือโทนที่มีสีสว่าง เช่น  สีแดง สีฟ้าสีเหลือง และสีขาว เพราะ การดูดซับค่าพลังงานแสงเลเซอร์จะน้อยกว่า

ซึ่งในแต่ละครั้งที่เข้ารับการรักษา  จะมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเป็นผู้วินิจฉัย  ซึ่งในปัจจุบันเลเซอร์ ที่ใช้ในการลบรอยสักกันอย่างแพร่หลาย และได้ผลลัพธ์ ที่ดีคือ Nd – YAG Laser  และ Picoway Laser  สำหรับการเลือกประเภทของเลเซอร์นั้น ขึ้นอยู่กับสีและความลึก รวมถึงระนะเวลาที่สักมาด้วย เพราะหากคุณยิ่งสักมานานมากเท่าไหร่ ยิ่งส่งผลให้การลบรอยสัก จะยากและใช้เวลามากขึ้นเท่านั้น  รวมถึงปฏิกิริยาตอบสนองของผู้ที่เข้ารับการรักษาด้วย

จะเห็นว่าไม่ว่าจะใช้วิธีการใดในการลบรอยสัก ก็มีความเสี่ยง ที่จะเกิดปัญหาใหม่ๆ ได้อยู่เสมอ แต่หากเลือกการรักษาที่ถูกวิธี ถึงแม้ว่าค่าใช้จ่ายอาจจะสูงไปสักหน่อย ก็ก็ลดการเกิดผลข้างเคียงไปได้มาก ดังนั้น วิธีการที่ดี ที่สุดในการลบรอยสัก ก็คือการใช้ Laser Pico ในการรักษา ซึ่งแน่นนอนว่า ต้องใช้ความต่อเนื่องสม่ำเสมอจนกว่า เม็ดสีนั้น จะจางลงจนมองไม่เห็น